วันนี้เป็นวันที่ 21 พฤษภาคม 2555
ซึ่งเป็นวันสอบภาษาเยอรมันพื้นฐาน หรือเรียกว่า A1
ที่สถาบันสอนภาษาเกเธ่ ถนนสาทร จากการที่เราเตรียมตัวมาได้สักพักใหญ่ๆ
เสียน้ำตา (เพราะไม่ค่อยเข้าใจ และท้อแท้) และน้ำลาย (ต้องนั่งท่องศัพท์
ท่องเพศ ท่องประโยค สารพัด) ไปก็เยอะ วันนี้แหละ
จะได้รู้กันล่ะว่าจะหมู่หรือจ่า จะสอบได้หรือว่าจะไม่ได้
เราออกจะตื่นตะหนก และประหม่าพอสมควร
ประกอบกับเพิ่งกลับมาจากประเทศเยอรมันได้ไม่กี่วัน ( 13 วันเอง )
ยังปรับเวลาการนอนไม่ค่อยได้ กลางวันง่วงนอนแต่ต้องนั่งอ่านหนังสือ
กลางคืนได้เวลานอน ก็ดันนอนไม่หลับ กว่าจะหลับก็เล่นเอาตอนรุ่งเช้า ตี5 6
โมง ทุกวัน วันนี้ก็เช่นเดียวกัน กว่าจะเคลิ้มหลับได้ก็ตอนตี 5 กว่า
แต่ดันต้องตื่น 6 โมงเช้า โอ้ ( แต่ก็ตื่นไหว
เพราะเนื่องด้วยจ่ายค่าสมัครสอบไปเรียบร้อยแล้ว 2,500 บาท ถ้าไม่ไปสอบ
ก็เสียดายตังค์แย่น่ะซิ) ไปถึงสถานที่สอบประมาณเกือบ 8 โมง
เราก็หาที่นั่งทบทวนสิ่งต่างๆ ที่เราได้เรียนมา
แต่ว่าอ่านไปท่องไปก็ไม่ค่อยเข้าหัวแล้ว
เพราะมันใกล้ถึงเวลาสอบเข้าไปทุกที การสอบแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ การฟัง
การอ่าน การเขียน และการพูด
ได้เวลาสอบ 9.30
น. เราสอบห้องที่ 2 อาจารย์คุมสอบ ดูท่าทาง เอ๋อๆ โหดๆ ยังไงบอกไม่ถูก (
เป็นอาจารย์คนไทยเชื้อสายจีน อายุน่าจะเยอะแล้วเนื่องจากมีผมหงอกพอสมควร
เห็นคนบอกว่าชื่ออาจารย์ม... (ไม่พูดชื่อดีกว่า อิอิ)
ไม่แน่ใจว่าใช่หรือป่าว เพราะเราไม่เคยเรียนที่เกอเธ่ )
เมื่อคนสอบเข้าห้องครบ อาจารย์คุมสอบก็ทำการแจกข้อสอบ เรานั่งหลังสุด
(เนื่องจากชอบเป็นการส่วนตัว อิอิ ) แอร์ก็จะไม่ลง ก็จะได้ไม่หนาวมาก
แต่เราว่ามันออกจะซวยนิดๆ เพราะเวลาอาจารย์คุมสอบเปิดเทปให้ฟัง
เราฟังไม่ค่อยถนัดเลย เพราะว่าอยู่ไกล
แถมลำโพงวิทยุ ก็ดันหันไปหาอาจารย์คุมสอบ
(ไม่รู้เอาอะไรคิด ทำไมไม่หันลำโพงไปหาคนสอบ
ปกติเราฝึกฟังด้วยการใช้หูฟังเสียบรูหู เพื่อจะได้ฟังชัดๆ
เรายังฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แล้วนับประสาอะไรกับการฟังจากลำโพงไกลๆ
เฮ้อ... สงสารตัวเองมาก อารมณ์นั้นอยากร้องไห้จรีงๆ )
ปรากฏว่า การสอบฟังของเรา คงหมดหวัง ท่าทางจะได้คะแนนเพียงเล็กน้อย
เพราะเราทำข้อสอบด้วยการเดาซะเป็นส่วนใหญ่
ส่วนการสอบอ่าน เราคิดว่าเราทำได้ดี การสอบเขียน โจทย์ข้อสอบเขียน
คือเราต้องการจะไปเที่ยวที่เบอร์ลินกับครอบครัว ตามโจทย์จะต้องเขียนบอกราย
ละเอียดว่า ไปกี่คน ไปเมื่อไหร่ ถึงเมื่อไหร่
ถามถึงราคาค่าที่พัก เราคิดว่าเราทำข้อสอบเขียนได้ดีเช่นกัน แต่พอออกมานอก
ห้องแล้วได้คุยกับคนอื่นๆ
ถึงได้รู้ว่าเราพลาดไปนิดนึงตรงที่จดหมายเป็นทางการต้องใส่ชื่อและนามสกุล
ตรงท้ายจดหมาย แต่เราดันใส่แต่ชื่อ เสียดายจัง
แต่เพื่อนที่สอบห้องเดียวกัน
ที่เค้าเรียนที่เกอเธ่บอกว่าคงโดนหักคะแนนเพียงเล็กน้อย (
ก็ขอให้เล็กน้อยจริงๆ ด้วยเถอะ) มาถึงช่วงพักเบรค ต่อไปก็เป็นการสอบพูด
12.30 น. ได้เวลาสอบพูด เราเป็นคนสอบลำดับที่ 15 อยู่กลุ่มที่ 3 ( 1
กลุ่มมี 4 คน ) เราสอบพูดเป็นคนที่ 3
เริ่มการสอบพูดด้วยการพูดแนะนำตัวเอง บอกชื่อ นามสกุล อายุ มาจากไหน
พักอยู่ที่ไหน อาชีพอะไร งานอดิเรกคืออะไร และก็ให้เราสะกด
(แล้วแต่เค้าต้องการ ซึ่งอาจจะให้เราสะกด ชือ หรือ นามสกุล) นามสกุล
และให้บอกหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งส่วนใหญ่ทุกคนในกลุ่มจะพูดได้หมด
ต่อไปก็เป็นการสอบพูดตั้งคำถามตามบัตรคำ ในแต่ละหัวข้อ กลุ่มเราได้หัวข้อ
ร่างกายและสุขภาพ (ซึ่งอาจารย์คุมสอบ (มี 2 คน ไทย และเยอรมัน
) คนไทยเป็นคนเลือก ) เราจับได้คำว่า rauchen (คำแรกก็เป็นเรื่องเลย)
ซึ่งเราจำได้ว่ามันแปลว่า สูบบุหรี่ เราก็ถามด้วยความมั่นใจว่า Sind Sie
rauchen? อาจารย์คุมสอบ ( ใยป้าคนเดิมที่คุมสอบช่วงแรก) บอกไม่ใช่
พูดใหม่อีกที เราก็ยังดันทุรังและถามไปเหมือนเดิมอีก
เพราะจำได้ว่าศัพท์คำนี้มันแปลว่าสูบบุหรี่ เราต้องการถามว่า
คุณสูบบุหรี่หรือไม่ ใยป้าคุมสอบก็ยังบอก ให้ถามใหม่อยู่นั่นแหละ
เรางงมากว่าทำไมถึงผิด ทำไมถามแบบนั้นไม่ได้ ( ตอนนั้นยังไม่รู้ตัว)
เลยย้อนถามใยอาจารย์คุมสอบไปว่า คุณช่วยอธิบายหน่อยได้ไม๊คะว่าคำนี้คืออะไร
มันแปลว่าสูบบุหรี่ไม่ใช่เหรอคะ (ในเวบส์ไซด์ไกด์ไลน์การสอบของเกอเธ่
บอกว่า ถ้าไม่เข้าใจความหมายของบัตรคำให้ถามความหมายกับผู้คุมสอบได้
เราก็เลยถามใยป้าคุมสอบไปแบบนั้น) แต่ใยป้าดันไม่ยอมตอบ
กลับส่ายหน้าแล้วเอาบัตรคำคืนไป แป่ว!!! งง ทำไมใยป้าไม่ตอบวะ
แล้วก็กลายเป็นว่าเราไม่ได้คะแนนในคำนี้ เพราะถือว่าตั้งคำถามไม่ได้
(สุดท้ายแล้วเราก็เลยต้องยอมรับคำตัดสินของใยป้าคุมสอบไปด้วยความงุนงง
พอสอบเสร็จ เรามาดูสมุดโน๊ตที่จดไว้ คำนี้มันแปลว่าสูบบุหรี่จริงๆด้วย แต่
Sind Sie rauchen? มันแปลว่า คุณคือสูบบุหรี่ใช่ไหม
ไม่ได้หมายความว่าคุณสูบบุหรี่หรือไม่ อืม พลาดไปนิดเดียว )
ต่อมาจับได้คำว่า Hotel เราก็ตั้งคำถามว่า Möchte Sie im
Hotel übernachten? แปลว่าคุณต้องการพักที่โรงแรมใช่ไม๊
(พูดจบก็ต้องมองหน้าใยป้าคุมสอบ ถ้าเขาไม่พูด noch einmal
(พูดใหม่อีกครั้ง) ก็แสดงว่าเราพูดถูกต้อง ก็จะได้คะแนนไป
ปรากฏว่าใยป้าแกเงียบ เราก็เลยได้คะแนนคำนี้ไป ) แล้วก็วนมาที่เราอีกครั้ง
เราจับได้ (รูปภาพ) คำว่า Formular เราก็ตั้งคำถามไปว่า Könnten Sie mir
bitte das Formular geben? แปลว่ากรุณาช่วยส่งแบบฟอร์มให้ดิฉันหน่อยค่ะ
(ใยป้าคุมสอบเงียบอีก แสดงว่าเขาให้ผ่านเราก็ได้คะแนนไปอีก)
ในกลุ่มสอบพูดของเรานี้ ดูจะไม่มีใครได้เรื่องเลยสักคน
ตั้งคำถามกันไม่ค่อยได้ (เราพลาดน้อยสุดแค่ตั้งคำถาม
คำว่าบุหรี่ไม่ได้คำเดียว นอกนั้นได้หมด อิอิ ) อาจารย์คุมสอบ
ส่ายหน้าเอือมระอากลุ่มเราหลายต่อหลายครั้ง เห็นแล้วก็ขำ ไม่รู้ว่าขำอะไร
หรือขำใคร แต่ดูเหมือนรู้สึกสงสารในชะตากรรมของตัวเองและของเพื่อนๆ
ในกลุ่มยังไงบอกไม่ถูก .... ตอนนี้ก็ได้แค่รอผลสอบ (ด้วยใจตุ๊มๆ ต้อม)
ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ... รอ 3 วัน ก็แค่อึดในเดียวเน๊อ
ปล.
ต้องขอขอบคุณน้องวัน ที่เอื้อเฟื้อหนังสือเรียนให้ ขอบคุณมากกกๆ นะค้าๆๆๆ
และก็ต้องขอขอบคุณ ติวเตอร์ส่วนตัว (คุณแฟน) ( ที่บางครั้ง อธิบายลึกซึ้ง
จนเรางุนงง ) ที่แม้ยามงานยุ่ง
ก็ยังเจียดเวลาอธิบายความหมายทุกครั้งที่ถาม love you joob joob :)
เพื่อนคนไหนที่สอบผ่าน a1 แล้วพอจะมีหนังสือกับแนวข้อสอบหลงเหลืออยู่บ้าง รบกวนอนุเคราะห์เพื่อนคนนี้หน่อยนะคะ ซื้อต่อมือสองไม่ว่ากัน เพราะหาซื้อมิได้จริงๆ
ตอบลบกำลังเรียนภาษาเยอรมันแบบเริ่มจากศูนย์เลยคะยากมากเครียดทุกวัน
ตอบลบกำลังเรียนภาษาเยอรมันแบบเริ่มจากศูนย์เลยคะยากมากเครียดทุกวัน
ตอบลบคุณแอนนาเข้าให้กำลังใจคะกำลังเริ่มเรียนเหมืนกัน
ตอบลบเคยสอบใด้a1ปี2012 ตอนนี้จะกลับมาติวสอบใหม่ก้อยังไม่มั่นใจเลย🙄🙄
ตอบลบตอนนี้กำลังเรียนภาษาเยอรมันA1อยุ่ค่ะยากมากเครียดตลอดเลยไม่รุ้จะสอบผ่านหรือป่าว นี้ขอเรียนช้ำ1.2ด้วยไม่เข้าใจเลย
ตอบลบ